เกี่ยวกับโครงการ
เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในปัจจุบันทำให้แรงงานที่อยู่ต่างจังหวัดและผู้ประกอบการได้รับผลกระทบจากการจ้างแรงงานและกิจการโรงงานหลายแห่งถูกปิดตัวลง ทำให้ประชาชนกลับคืนสู่ภูมิลำเนาจำนวนมาก เกิดการว่างงานและขาดรายได้ที่จะนำมาใช้สอยในระบบเศรษฐกิจ โครงการยกระดับมาตรฐานผ้าย้อมคราม เป็นโครงการที่จัดทำขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยาและฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มีการประยุกต์ใช้วิทยาการเทคโนโลยี นวัตกรรมหรือความคิดสร้างสรรค์เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตหรือสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับธุรกิจ สนับสนุนการนำแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวชุมชนมาใช้ในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์และบริการของชุมชนบนฐานศักยภาพของพื้นที่โดยใช้ความรู้ทางวิชาการ เทคโนโลยี นวัตกรรม ภูมิปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต การแปรรูป สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการหรือยกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชน OTOP และการท่องเที่ยวชุมชน รวมถึงการพัฒนาด้านการตลาดให้ทันสมัย สอดคล้องกับการแก้ไขปัญหาและความต้องการของประชาชนในพื้นที่รวมทั้งประสานการดำเนินงานและบริหารจัดการร่วมกันเพื่อให้เกิดความยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคีการพัฒนา และให้ความสำคัยกับการดำเนินกิจกรรมเพื่อลดช่องว่างหรือสร้างมูลค่าเพิ่มตลอดห่วงโซ่คุณค่าคราม (Indigo value chain) โดยบูรณาการองค์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรม และความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยสถาบันการศึกษาและหน่วยงานต่างๆ ในจังหวัดสกลนครดังนี้
- มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสกลนคร รับผิดชอบกิจกรรมการพัฒนาร่างมาตรฐานและระบบตรวจรับรองคุณภาพเนื้อครามและขยายผล
- มหาวิทยาลัยราชภัฏสกลนคร รับผิดชอบกิจกรรมการพัฒนาร่างมาตรฐานและระบบการตรวจรับรองคุณภาพผ้าย้อมคราม และระบบการเทียบสีมาตรฐานสำหรับผ้าย้อมครามระดับสากลการส่งเสริมและพัฒนาระบบบริหารกาส่งมอบสินค้าแบบอัจฉริยะสำหรับผ้าย้อมคราม
- วิทยาลัยสารพัดช่างสกลนคร รับผิดชอบกิจกรรมการส่งเสริมพัฒนาและขยายผลการทอผ้าย้อมครามด้วยกี่และฟืมขยายขนาด
- ศูนย์หม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ สกลนคร รับผิดชอบกิจกรรมการส่งเสริมและยกระดับผ้าไหมให้ได้การรับรองมาตรฐานนกยูงพระราชทาน
นำแนวคิดเศรษฐกิจสร้างสรรค์และการท่องเที่ยวชุมชนมาใช้ในการพัฒนา ผลิตภัณฑ์และบริการของชุมชนบนฐานศักยภาพของพื้นที่โดยใช้ความรู้ทางวิชาการ เทคโนโลยี นวัตกรรม ภูมิปัญญาและความคิดสร้างสรรค์
โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือ เกษตรกรผู้ปลูก มัดย้อม ทอและจำหน่ายผ้าครามจำนวน 1,500 ราย และผู้ประกอบการในธุรกิจผ้าครามจำนวน 80 ราย และมีวัตถุประสงค์หลักประกอบด้วย
- ยกระดับการผลิตผ้าย้อมครามไปสู่สินค้าที่มีคุณภาพมาตรฐานสอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่มีมูลค่าเพิ่มสูง อันจะเป็นการแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานรากสามารถแข่งขันได้ทั้งในตลาดของประเทศและต่างประเทศ
- เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกรโดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่เหมาะสม
- พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าครามให้เกิดการสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของท้องถิ่นและชุมชนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
- พัฒนามาตรฐานและระบบการตรวจรับรองคุณภาพเนื้อครามผ้าย้อมครามและระบบการเทียบสีมาตรฐานสำหรับผ้าย้อมคราม
- ส่งเสริมและเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทอผ้าด้วยกี่และฟืมที่ขยายขนาดได้เพื่อตอบสนองความต้องการสู่อุตสาหกรรมแปรรูปที่หลากหลาย
- ส่งเสริมและพัฒนาระบบบริหารการส่งมอบสินค้าแบบอัจฉริยะสำหรับผ้าย้อมคราม เพื่อให้การบริหารจัดการด้านกระบวนการโลจิสติกส์และการตรวจสอบสินค้าย้อนกลับและจัดให้มีประสิทธิภาพ
เพื่อรักษาการจ้างงานและระดับรายได้ของประชาชนผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในหัตถกรรมคราม ให้สามารถรับมือกับสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เสริมสร้างการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้มั่นคงและยั่งยืนพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่ยุคความปกติใหม่ (New Normal) สร้างที่ยืนให้กับประชาชนครามในระบบนิเวศค้าปลีกใหม่ (New Retail Ecosystem) ปรับวิถีการดำเนินงานของประชาคมครามเข้าสู่แนวทางเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ยกระดับปรับเปลี่ยนวิถีและแนวคิดการผลิตและจำหน่ายจากแบบเดิมๆ สู่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มและลูกค้าในโลกไร้พรมแดนด้วยมาตรฐานที่จับต้องวัดได้ในเชิงวิทยาศาสตร์ซึ่งจะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเนื้อครามลดต้นทุนการปลูกครามสร้างโอกาสในการจำหน่ายสินค้าในตลาดระดับบน มีนวัตกรรมการจัดการความรู้ พัฒนาการบริหารการจัดการด้านกระบวนการโลจิสติกส์เพื่อให้มีกระบวนการการส่งมอบสินค้าถึงมือลูกค้าที่มีประสิทธิภาพอันจะเป็นการพัฒนาระบบเศรษฐกิจฐานรากชุมชนให้เข้มแข็งและยั่งยืน